แนวคิด รักษามะเร็ง ด้วยภูมิคุ้มกัน
ภูมิคุ้มกันบำบัด (Immunotherapy) เป็นแนวคิดที่แพทย์พยายามใช้ภูมิคุ้มกันในร่างกาย ต่อสู้กับเซลล์มะเร็ง ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะหน้าที่หลักของภูมิคุ้มกันคือจัดการกับ “เชื้อโรค” หรือสิ่งแปลกปลอมในร่างกาย แต่เซลล์มะเร็งเกิดจากเซลล์ของร่างกาย ซึ่งบางครั้งภูมิคุ้มกันก็ไม่ได้มองว่าเป็นสิ่งแปลกปลอมอะไร จึงปล่อยเอาไว้
จึงมีบางแนวคิดที่ใช้ภูมิคุ้มกันสู้กับมะเร็ง โดยพยายามให้ภูมิคุ้มกันรู้ว่าเซลล์ไหนคือเซลล์มะเร็ง แล้วเข้าไปจัดการ
อาหาร สำคัญกับการเพิ่มภูมิคุ้มกัน
อาหารอาจจะไม่ใช่ยาก็จริง และไม่ใช่หนึ่งใน “ภูมิคุ้มกันบำบัด” ที่รักษามะเร็งได้ แต่อาหาร เป็นส่วนประกอบสำคัญที่ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง เป็นวัตถุดิบที่สำคัญที่ร่างกายนำไปใช้สร้างเซลล์เม็ดเลือดขาว (ที่เป็นเซลล์ภูมิคุ้มกัน)
ระหว่างการรักษา ไม่ว่าจะด้วยวิธีเคมีบำบัด ฉายแสง หรือผ่าตัด ร่างกายจะอ่อนแอลงจากผลข้างเคียงระหว่างการรักษา การกินอาหารที่เหมาะสม จะช่วยให้ภูมิคุ้มกันแข็งแรงพอจะรักษาต่อจนจบคอร์สได้
โปรตีนสูง สำคัญอย่างไร
เซลล์มะเร็ง จะมีการหลั่งสารที่ทำให้มีการเผาผลาญสารอาหารในร่างกายเพิ่มขึ้น ส่งผลให้โปรตีนถูกดึงจากกล้ามเนื้อออกมาเผาผลาญ
ด้วยเหตุนี้เอง ผู้ที่เป็นมะเร็งจึงต้องการสารอาหาร โดยเฉพาะโปรตีนมากกว่าคนทั่วไป เกิดเป็นความเชื่อที่ว่า “เซลล์มะเร็งกินโปรตีน” จึงมีหลายคนงดโปรตีน ซึ่งในทางการแพทย์ จะส่งผลเสียมากกว่าผลดี เพราะถึงแม้จะไม่กินโปรตีน ร่างกายก็จะไปสลายโปรตีนในกล้ามเนื้อออกมาอยู่ดี ในที่สุดจะยิ่งทำให้ร่างกายทรุดโทรม ขาดสารอาหาร จนไม่อาจทนต่อการรักษาได้ หรือไม่มีโปรตีนเพียงพอจะสร้างเม็ดเลือดขาว ต้องเลื่อนการรักษา (หากเม็ดเลือดขาวต่ำเกิน แพทย์จะเลื่อนการรักษาออกไป และให้ผู้ป่วยกินอาหารให้เยอะขึ้นเพื่อให้เม็ดเลือดขาวเพิ่มสูงขึ้น) ซึ่งหากเลื่อนการรักษา อาจทำให้เซลล์มะเร็งเติบโตขึ้นระหว่างนั้นได้
สารอาหาร-ภูมิคุ้มกัน (Immunonutrition)
นอกจากอาหารทั่วไปที่ควรกินให้เพียงพอสู้กับโรคแล้ว ในทางการแพทย์มีอาหารที่เกี่ยวกับภูมิคุ้มกันที่แพทย์ยอมรับอยู่ 4 ชนิด เรียกว่า “Immunonutrition”
Immune แปลว่า ภูมิคุ้มกัน
Nutrition คือ สารอาหาร
อิมมูโนนิวทริชั่น จึงหมายถึง สารอาหารที่มีผลต่อภูมิคุ้มกัน
สารอาหาร-ภูมิคุ้มกัน 4 อย่าง ในวงการแพทย์
ASPEN และ ESPEN คือสมาคมของอเมริกา และ ยุโรป* ที่ประกาศแนวทางการดูแลด้วยอาหารใหม่ๆให้กับแพทย์ทั่วโลก (Nutrition Guideline) เป็นแนวทางที่ใช้รักษาจริงในโรงพยาบาล
แม้ยังต้องวิจัยเพิ่มเติม แต่ได้กล่าวถึง สารอาหาร-ภูมิคุ้มกัน 4 ชนิด
1. อาร์จีนีน (Arginine)
คือกรดอะมิโนชนิดหนึ่ง ซึ่งร่างกายจำเป็นต้องใช้ยามเจ็บป่วย ช่วยเพิ่มจำนวนและเสริมสร้างการทำงานของเม็ดเลือดขาว (lymphocyte) และช่วยสมานแผลผ่าตัดเร็วขึ้น
2. โอเมก้า 3
ระหว่างการรักษา ไม่ว่าจะทำคีโม ฉายแสง หรือผ่าตัด ร่างกายผู้ป่วยจะเกิดการอักเสบระดับเซลล์ โอเมก้า 3 จะช่วยลดการผลิตสารกระตุ้นการอักเสบ (pro-inflammatory cytokine) ช่วยควบคุมการอักเสบในร่างกาย
3. ไรโบนิวคลีโอไทด์
คือ ส่วนประกอบของสารพันธุกรรม (DNA/RNA) ช่วยเพิ่มจำนวนเซลล์ลำไส้และเซลล์เม็ดเลือดขาว จึงช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกาย
4. กลูตามีน
คือกรดอะมิโนอีกชนิด ที่คล้ายกับอาร์จีนีนคือร่างกายจำเป็นต้องใช้ระหว่างที่ร่างกายเจ็บป่วย เป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญของเซลล์ลำไส้ เมื่อเซลล์ลำไส้แข็งแรง ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันในร่างกายให้ดีขึ้น
*The American Society of Parenteral and Enteral Nutrition (ASPEN)
European Society of Parenteral and Enteral Nutrition (ESPEN)
สารอาหาร-ภูมิคุ้มกัน 4 อย่าง ต้องกินเท่าไหร่ และ ส่งผลอย่างไร
งานวิจัย พบว่า หากผู้ที่เข้ารับการรักษาได้รับอาหารสูตรครบถ้วน ที่มีสูตรเฉพาะ
- อาร์จีนีน 12.5 กรัม/ลิตร
- ไรโบนิวคลีโอไทด์ 1.5 กรัม/ลิตร
- โอเมก้า 3 3.3 กรัม/ลิตร
- เวย์โปรตีน (แหล่งของกลูตามีนโดยธรรมชาติ) 16.8 กรัม/แก้ว
ผลวิจัยพบว่ามีผลต่อคุณภาพชีวิตของผู้ที่รักษามะเร็ง ดังนี้
งานวิจัยการรักษาด้วยเคมีบำบัด :
• ช่วยให้ได้รับโปรตีนสูง เพียงพอต่อความต้องการ เพราะคนที่เป็นมะเร็ง ร่างกายเผาผลาญโปรตีนสูงกว่าคนปกติ จึงควรรับอาหารเสริมเพิ่มเติมให้พอเพียงต่อวัน
• มีส่วนช่วยเพิ่มเซลล์เม็ดเลือดขาว เพื่อให้สามารถรับการรักษา cycle รอบถัดไปได้ (ถ้าเม็ดเลือดขาวต่ำ แพทย์จะเลื่อนการรักษา) ผู้ป่วยไม่ต้องทนทุกข์ใจ หรือต้องรอเวลา เพราะหากต้องเลื่อนการรักษา ก็อาจจะมีความเสี่ยงที่เซลล์มะเร็งจะพัฒนาในช่วงที่ถูกเลื่อนไป
• มีส่วนช่วยลดอาการอักเสบในช่องปาก ช่วยให้ไม่ทรมานระหว่างกินอาหาร ซึ่งสำคัญมาก เพราะหากเจ็บปากจะทำให้กินได้น้อยลง ร่างกายจะยิ่งทรุดผอมลง
งานวิจัยการรักษาด้วยวิธีผ่าตัด:
• ช่วยเพิ่มโปรตีนสูง เพื่อให้แผลหายเร็ว ฟื้นตัวเร็ว
• ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน ลดโอกาสการติดเชื้อ
• ช่วยลดจำนวนวันพักรักษาตัวในโรงพยาบาล ประหยัดค่าใช้จ่ายในการนอนโรงพยาบาล
*จากผลงานวิจัย ได้ผลลัพธ์อย่างมีนัยยะสำคัญ แต่ทั้งนี้ขึ้นกับแต่ละบุคคล
การตอบสนองต่อยาที่รักษา สภาวะสุขภาพก่อนการรักษา และปริมาณที่ได้รับต่อวัน
อาหารพลังงานสูง โปรตีนสูง พร้อมสารอาหารเพิ่มภูมิคุ้มกัน 4 ชนิดใน 1 แก้ว
สารอาหาร-ภูมิคุ้มกัน ทั้ง 4 ชนิด พบได้ในอาหารปกติ เช่นอาหารโปรตีนสูงจะให้อาร์จีนีนและกลูตามีน น้ำมันปลาให้โอเมก้า 3 แต่การจะกินให้ได้ปริมาณที่กำหนดทุกๆวัน อาจจะไม่ใช่เรื่องง่าย หรือต้องกินอาหารปกติเยอะมากจนกินไม่ไหว (ผู้ป่วยมะเร็งจะกินลำบากเพราะเจ็บปาก คลื่นไส้ ต่อมรับรสเปลี่ยน)
เช่น ต้องกินเนื้อปลาเยอะมากถึงจะได้โอเมก้า 3 เพียงพอ หรือต้องกินไข่ขาววันละหลายสิบฟอง ถึงจะได้โปรตีนที่ให้กรดอะมิโนจำเป็นเพียงพอ นักโภชนาการจึงมีการพัฒนาอาหารสูตรครบถ้วนในรูปผงชงทานง่าย ได้รับ “สารอาหาร-ภูมิคุ้มกัน” ใน 1 แก้วขึ้นมา
อาหารสูตรครบถ้วน เพิ่ม “สารอาหาร-ภูมิคุ้มกัน” โดย Nestle Health Science
ที่เนสท์เล่ เราพัฒนา “อาหารทางการแพทย์” สูตรครบถ้วน สูตรเดียวจากเนสท์เล่ที่มีสารอาหาร
ครบ 4 ส่วนประกอบสำคัญใน 1 แก้ว คือมี เวย์โปรตีน 100% (แหล่งของกลูตามีนโดยธรรมชาติ) , มี แอล-อาร์จีนีน, ไรโบนิวคลีโอไทด์, โอเมก้า 3
และยังเสริมด้วยวิตามินและเกลือแร่ที่สำคัญรวม 28 ชนิด อยู่ในรูปแบบผง ชงดื่มง่าย ดื่มวันละ 3 แก้วจะได้ปริมาณ “สารอาหาร-ภูมิคุ้มกัน” ตามที่ควรได้รับในผลงานวิจัย ผลิตจากประเทศเยอรมัน ให้คุณมั่นใจได้ด้วยสินค้าคุณภาพจากเนสท์เล่
เมื่อกินอาหารสูตรนี้วันละ 3 แก้ว จะได้โปรตีน 50.4 กรัม หรือเทียบเท่ากับโปรตีนจากไข่ขาวประมาณ 14 ฟอง
ผลงานวิจัยทางการแพทย์
“อาหารทางการแพทย์” สูตรเพิ่ม สารอาหาร-ภูมิคุ้มกัน จะแตกต่างจากอาหารเสริมทั่วไป เพราะเป็นอาหารที่มีผลงานวิจัยในโรงพยาบาล กับผู้ป่วย ตีพิมพ์ในวารสารทางการแพทย์ชั้นนำ ได้รับการยอมรับและใช้จริงจากแพทย์ในโรงพยาบาลชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ
ผลงานวิจัยที่ใช้ สารอาหาร-ภูมิคุ้มกัน
(1) ผลวิจัยที่ช่วยลดความเสี่ยงการติดเชื้อ ลดจำนวนวันที่อยู่โรงพยาบาลได้
(2) ผลวิจัยที่ช่วยเพิ่มน้ำหนักในผู้ป่วยมะเร็งที่ทำคีโมช่วยให้รักษาได้ครบคอร์ส
(3) ผลวิจัยที่ช่วยเพิ่มเม็ดเลือดขาวในผู้ป่วยมะเร็ง
(4) ผลงานวิจัยที่ลดการอักเสบ และแผลในช่องปาก
(1) Drover JW, Dhaliwal R, Weitzel L, et al. Perioperative use of arginine-supplemented diets: a systemic review of the evidence. J Am Coll Surg 2011;212:385–99.
(2) M.-P. Vasson *, et al. Immunonutrition improves functional capacities in head and neck and esophageal cancer patients undergoing radiochemotherapy: A randomized clinical trial
(3) Daly JM, et al. Enteral nutrition during multimodality therapy in upper gastrointestinal cancer patients. Ann Surg 1995; 221:327-38.
(4) Machon C, et al. Immunonutrition before and during radiochemotherapy: improvement of inflammatory parameters in head and neck cancer patients.
และผลงานวิจัยทางการแพทย์อื่นๆ
- Waitzberg DL, Saito H, Plank LD, et al. Postsurgical infections are reduced with specialized nutrition support. Wold J Surg2006;30;1592–604.
- Marik PE, Zaloga GP. Immunonutrition in high risk surgical patients: a systematic review and analysis of the literature. JPEN J Parenter Enterol Nutr 2010;34:378–86.
- Marimuthu K, Varadhan KK, Ljungqvist O, et al. A meta-analysis of the effect of combinations of immune modulating nutrients on outcome in patients undergoing major open gastrointestinal surgery. Ann Surg 2012;255:1060–8.
- Osland E, Hossain MB, Khan S, et al. Effect of timing of pharmaconutrition (immunonutrition) administration on outcomes of elective surgery for gastrointestinal malignancies: a systematic review and meta-analysis. JPEN J Parenter Enteral Nutr2014;38:53–69.